ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ (10 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐฯ มีความคืบหน้าครั้งสำคัญ และอาจทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หลังจากกลุ่มสมาชิกพรรคเดโมแครตสายกลางได้ลงคะแนนสนับสนุนข้อตกลงเพื่อยุติการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ที่ยืดเยื้อเป็นเวลานานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 50,766.89 จุด เพิ่มขึ้น 490.52 จุด หรือ +0.98%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 26,403.05 จุด เพิ่มขึ้น 161.22 จุด หรือ +0.61% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,996.26 จุด ลดลง 1.29 จุด หรือ -0.03%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.65% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 3.04% นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกัน
วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 60 ต่อ 40 สนับสนุนร่างกฏมายงบประมาณชั่วคราว ในช่วงค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐฯ (9 พ.ย.) ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการทำข้อตกลงเพื่อยุติการชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ต.ค.
ภายใต้ข้อตกลงนี้ สภาคองเกรสจะผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณระยะเวลา 1 ปีเต็มให้กับกระทรวงเกษตร กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก และสภาคองเกรสเอง ในขณะเดียวกันก็จะจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานอื่น ๆ จนถึงวันที่ 30 ม.ค. 2569 นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะอนุญาตให้จ่ายเงินเดือนแก่พนักงานของรัฐบาลกลางที่ถูกสั่งให้หยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง และจะดำเนินการให้รัฐบาลกลางสามารถจ่ายเงินให้กับรัฐต่าง ๆ และหน่วยงานท้องถิ่นที่ถูกระงับไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งจะทำให้พนักงานของหน่วยงานรัฐที่ถูกเลิกจ้างในระหว่างการชัตดาวน์ สามารถกลับเข้าทำงานอีกครั้ง
ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็น (Summary of Opinions) ของกรรมการ BOJ ในวันนี้ โดยระบุว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 29-30 ต.ค. ที่ผ่านมา กรรมการ BOJ ได้หารือกันว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปน่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
"มีความเป็นไปได้ว่าเงื่อนไขต่าง ๆ ที่สนับสนุนการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้กลับสู่ภาวะปกตินั้น ได้ขยับเข้าใกล้ไปอีกขั้นแล้ว" กรรมการคนหนึ่งของ BOJ กล่าว ขณะเดียวกันก็ระบุถึงความจำเป็นในการตรวจสอบอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน