ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงกว่า 3% ในวันนี้ (18 พ.ย.) โดยมีปัจจัยกดดันหลักจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และความวิตกกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ความกังวลต่อสถานะทางการคลังของญี่ปุ่นเองก็ได้กดดันให้เกิดการเทขายเงินเยนและพันธบัตรรัฐบาลอย่างหนัก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 48,702.98 จุด ลดลง 1,620.93 จุด หรือ -3.22% นับเป็นการหดตัวรายวันที่รุนแรงที่สุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. ที่ดัชนีเคยดิ่งลงถึง 3.93%
ในฝั่งตลาดปริวรรตเงินตรา ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงแตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยซื้อขายกันที่ช่วง 155 เยนต่อดอลลาร์ในตลาดโตเกียว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี (ซึ่งใช้เป็นมาตรวัดอ้างอิง) พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 17 ปี
บรรดาโบรกเกอร์ให้ความเห็นว่า หุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์เผชิญแรงเทขายทำกำไร โดยปรับตัวลงตามทิศทางของหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดสหรัฐฯ ก่อนที่บริษัท Nvidia Corp. ยักษ์ใหญ่ด้านชิปของสหรัฐฯ จะประกาศผลประกอบการในวันพุธนี้ (19 พ.ย.)
หุ้นกลุ่มผู้ส่งออกส่วนใหญ่ถูกเทขาย ทั้งที่ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นผลดีต่อผลกำไรของบริษัทเหล่านี้ ทั้งนี้เป็นเพราะนักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่ากับความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัว