-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ (18 พ.ย.) และแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ โดยบรรยากาศการซื้อขายยังคงได้รับผลกระทบจากความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในประเด็นไต้หวัน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 3,939.81 จุด ลดลง 32.22 จุด หรือ -0.81%
-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ (18 พ.ย.) โดยร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่กลางเดือนต.ค. และปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนกับญี่ปุ่น
ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 25,930.03 จุด ร่วงลง 454.25 จุด หรือ -1.72%
-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงกว่า 3% ในวันนี้ (18 พ.ย.) โดยมีปัจจัยกดดันหลักจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และความวิตกกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ความกังวลต่อสถานะทางการคลังของญี่ปุ่นเองก็ได้กดดันให้เกิดการเทขายเงินเยนและพันธบัตรรัฐบาลอย่างหนัก
ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 48,702.98 จุด ลดลง 1,620.93 จุด หรือ -3.22% นับเป็นการหดตัวรายวันที่รุนแรงที่สุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. ที่ดัชนีเคยดิ่งลงถึง 3.93%
-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดลบในวันนี้ (18 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มชิปและเทคโนโลยี หลังจากนักลงทุนลดความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ประกอบกับความกังวลเรื่องมูลค่าหุ้นในกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความเป็นไปได้ที่อาจเกิดฟองสบู่ AI
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดที่ระดับ 3,953.62 จุด ลดลง 135.63 จุด หรือ -3.32%
-- ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือนในวันนี้ (18 พ.ย.) หลังจากรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) บ่งชี้ว่า กรรมการ RBA ยังคงดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 8,469.10 จุด ลดลง 167.30 จุด หรือ -1.94% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 8,738.30 จุด ลดลง 177.40 จุด หรือ -1.99%