ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดดีดตัวขึ้นในวันนี้ (20 พ.ย.) โดยหยุดสถิติที่ร่วงลง 4 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และหุ้นกลุ่มส่งออก อย่างไรก็ดี ความกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการคลังของญี่ปุ่นส่งผลให้เกิดแรงเทขายในตลาดพันธบัตรและเงินเยน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 49,823.94 จุด เพิ่มขึ้น 1,286.24 จุด หรือ +2.65%
หุ้นบวกนำตลาดได้แก่ กลุ่มโลหะนอกกลุ่มเหล็ก กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์
นักวิเคราะห์ระบุว่า แรงซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนีนิกเกอิให้ดีดตัวขึ้น จนสามารถทะลุระดับ 50,000 จุดได้ในช่วงสั้น ๆ หลังจากที่บริษัท อินวิเดีย คอร์ป (Nvidia Corp.) เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งช่วยคลายความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของภาคธุรกิจ AI เมื่อเทียบกับเม็ดเงินลงทุนมหาศาล
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มส่งออกที่ได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินเยน ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่ากำไรของบริษัทเมื่อมีการแปลงกำไรจากต่างประเทศกลับมาเป็นเงินเยน
เซอิจิ ซูซูกิ หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดทุนจากสถาบันวิจัยโตไก โตเกียว ให้ความเห็นว่า ความกังวลเกี่ยวกับฐานะทางการคลังของญี่ปุ่น ประกอบกับการที่นักลงทุนลดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ "ทำให้นักลงทุนมองไม่เห็นเหตุผลจูงใจในการเข้าซื้อเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์"
อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลดช่วงบวกลงในช่วงบ่าย เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนเริ่มถูกกดดันจากความกังวลเรื่องต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น ท่ามกลางทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น