ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (21 พ.ย.) หลังนักลงทุนมีความหวังมากขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นในตลาดโลก ขณะที่นักลงทุนรอการประกาศงบประมาณของสหราชอาณาจักรในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,539.71 จุด เพิ่มขึ้น 12.06 จุด หรือ +0.13%
แต่ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดในรอบสัปดาห์นี้ลดลง 1.7% ซึ่งเป็นการลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. เมื่อความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กดดันตลาดทั่วโลก
แรงหนุนจากการคาดการณ์ผลประกอบการดีของ Nvidia เมื่อวันพฤหัสบดี ส่งผลให้ตลาดโลกฟื้นชั่วคราว แต่ความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลับมาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ตลาดฟื้นตัวได้บ้าง หลัง จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก และสมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียงของ FOMC ระบุว่า เฟดยังสามารถปรับลดดอกเบี้ยลงได้ ซึ่งช่วยหนุนความคาดหวังเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยและความเชื่อมั่นโดยรวม
หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มปรับขึ้น 2% ขณะที่หุ้นกลุ่มผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 3.4%
ในทางตรงข้าม หุ้นกลุ่มอากาศยานและป้องกันประเทศร่วง 3.2% แตะระดับต่ำสุดในรอบสามเดือน ขณะที่นักลงทุนจับตาแผนสันติภาพรัสเซียยูเครนฉบับสหรัฐฯ
หุ้นกลุ่มเหมืองโลหะมีค่าและโลหะอุตสาหกรรมลดลง โดยกลุ่มเหมืองทองร่วง 2.2% ส่วนกลุ่มโลหะอุตสาหกรรมลดลง 1.8% หลังราคาทองแดงร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้น ASOS ร่วง 5.3% หลังบริษัทคาดกำไรประจำปีต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์