ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (24 พ.ย.) โดยเคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ ขานรับความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการใช้จ่ายในวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) ในสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มอุปสงค์ของผู้บริโภค
ณ เวลา 06.52 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น 165 จุด หรือ +0.36% แตะที่ระดับ 46,486 จุด
จอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศชิลีว่า เขามองว่านโยบายการเงินยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างตึงตัว แม้ว่าน้อยลงกว่าเดิมหลังการดำเนินนโยบายล่าสุด ดังนั้นจึงยังมีช่องว่างสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายของเฟดในระยะใกล้ เพื่อให้ทิศทางนโยบายเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลางมากขึ้น และยังคงรักษาสมดุลในการบรรลุเป้าหมายทั้งสองประการของเฟด
การแสดงความเห็นของวิลเลียมส์ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนธ.ค. โดยเครื่องมือ CME FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 70% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นหลังจากที่ให้น้ำหนักไม่ถึง 40% ในช่วงก่อนหน้านี้
นักลงทุนจับตารายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ในวันอังคารนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันอังคารนี้เช่นนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนธ.ค.
สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกการเผยแพร่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนต.ค. ซึ่งเดิมมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ทำให้ BLS ไม่สามารถเก็บข้อมูลย้อนหลังของการสำรวจได้ ส่วนดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ย. ซึ่งเดิมมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 10 ธ.ค. จะถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 18 ธ.ค.
ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า โดยนักลงทุนจับตาการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงวันหยุดดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มอุปสงค์ภายในประเทศ