ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (26 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความคาดหวังมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งช่วยหนุนกระแสการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ขณะที่หุ้นการเงินได้แรงหนุนเพิ่มเติมหลังการประกาศงบประมาณของสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 574.21 จุด เพิ่มขึ้น 6.20 จุด หรือ +1.09%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,096.43 จุด เพิ่มขึ้น 70.63 จุด หรือ +0.88%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,726.22 จุด เพิ่มขึ้น 261.59 จุด หรือ +1.11% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,691.58 จุด เพิ่มขึ้น 82.05 จุด หรือ +0.85%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สาม โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเป็นแรงหนุนหลัก พุ่งขึ้น 2.1% จากบรรยากาศเชิงบวกทั่วโลก ขณะที่นักลงทุนเริ่มเชื่อมั่นมากขึ้นถึงโอกาสที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยหุ้นผู้ผลิตอุปกรณ์ชิปอย่าง ASML พุ่งขึ้น 5.7%, หุ้น BESI พุ่ง 4% และหุ้น Infineon พุ่งขึ้น 3.7%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความคาดหวังเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายของเฟดกระตุ้นความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และช่วยหนุนการปรับขึ้นของตลาดสหรัฐฯ และยุโรป
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาว ซึ่งสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ยนั้น ถูกคาดหมายว่าเป็นตัวเต็งในการดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่
สก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.การคลังสหรัฐฯ ระบุว่า มีโอกาสสูงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะประกาศรายชื่อประธานเฟดก่อนช่วงคริสต์มาส
เรเชล รีฟส์ รมว.คลังอังกฤษประกาศงบประมาณที่มุ่งเพิ่มรายได้ภาษีจากแรงงาน แต่ยังคงยกเว้นภาษีเป้าหมายเฉพาะสำหรับธนาคาร ส่งผลให้ดัชนี FTSE 100 บวก 0.85% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นธนาคารอังกฤษ โดยหุ้น Lloyds Banking Group พุ่งขึ้น 3.4%, NatWest พุ่ง 2.2% และหุ้น HSBC บวก 1.3%
นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนในยุโรปยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าของกรอบสันติภาพรัสเซียยูเครน หลังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าตามกรอบข้อเสนอที่สหรัฐฯ สนับสนุน อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปรับเปลี่ยนกรอบเวลาในการทำข้อตกลง ซึ่งช่วยหนุนราคาน้ำมันและหุ้นกลุ่มป้องกันประเทศของยุโรป โดยดัชนีหุ้นกลุ่มอากาศยานและป้องกันภัยยุโรปพุ่งขึ้น 1.35%
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Novo Nordisk พุ่งขึ้น 4.7% หลัง Medicare ของสหรัฐฯ เปิดเผยราคาเจรจาต่อรองยา 15 รายการ รวมถึง Wegovy และ Ozempic ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นไปตามคาด