-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันนี้ (1 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองบวกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งช่วยบดบังปัจจัยลบจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของจีน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 3,914.01 จุด เพิ่มขึ้น 25.41 จุด หรือ +0.65%
-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองบวกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ขณะเดียวกัน ข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของจีนทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าจีนอาจประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 26,033.26 จุด เพิ่มขึ้น 174.37 จุด หรือ +0.67%
-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (1 ธ.ค.) และหยุดสถิติขาขึ้น 4 วันติดต่อกัน โดยภาวะการซื้อขายถูกกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของญี่ปุ่นที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณว่าอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนนี้
ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 49,303.28 จุด ลดลง 950.63 จุด หรือ -1.89%
-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดลบเล็กน้อยในวันนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องากนักลงทุนขายทำกำไร ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่าตลาดจะสามารถรักษาแรงบวกได้ต่อไปหรือไม่ ขณะที่เงินวอนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดที่ระดับ 3,920.37 จุด ลดลง 6.22 จุด หรือ -0.16%
-- ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดลบในวันนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของออสเตรเลียอาจผลักดันให้ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 8,565.20 จุด ลดลง 48.90 จุด หรือ -0.57% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 8,866.40 จุด ลดลง 52.30 จุด หรือ -0.59%