ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (8 ธ.ค.) โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นกดดันตลาด ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 578.36 จุด ลดลง 0.41 จุด หรือ -0.07%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,108.43 จุด ลดลง 6.31 จุด หรือ -0.08%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,046.01 จุด เพิ่มขึ้น 17.87 จุด หรือ +0.07% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,645.09 จุด ลดลง 21.92 จุด หรือ -0.23%
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นแรงกดดันหลักของดัชนี STOXX โดยร่วงลง 1.6% หลังเผชิญแรงกดดันจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากความกังวลด้านความยั่งยืนทางการคลัง
ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีของเยอรมนีขยับขึ้นแตะ 3.466% หลังจากดีดขึ้นมากกว่า 0.10% เมื่อสัปดาห์ก่อน สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2554
ความเคลื่อนไหวในตลาดยังได้รับอิทธิพลจากข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่ออกมาดีกว่าคาด และถ้อยแถลงเชิงคุมเข้มนโยบายของอิซาเบล ชนาเบล ผู้กำหนดนโยบายการเงินซึ่งส่งสัญญาณว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย ไม่ใช่การลดดอกเบี้ย
หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นกดดันตลาด โดยหุ้น Unilever ร่วงลง 2% หลังจากบริษัทเสร็จสิ้นการแยกธุรกิจ Magnum ส่งผลให้ Magnum Ice Cream Company เข้าจดทะเบียนด้วยมูลค่าราว 7.8 พันล้านยูโร หรือประมาณ 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้น LOreal ร่วงลง 2% หลังบริษัทในฝรั่งเศสระบุว่าจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทสกินแคร์สัญชาติสวิสอย่าง Galderma เป็น 20% โดยหุ้น Galderma เพิ่มขึ้น 1%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 0.6% นำโดยบริษัทด้านกลาโหม โดยหุ้น Rheinmetall พุ่งขึ้น 3.6% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มกลาโหมโดยรวมเพิ่มขึ้น 1.6%
กลุ่มนี้ตอบสนองต่อข่าวความคืบหน้าในสงครามรัสเซียยูเครน โดยลดลงแรงในเดือน พ.ย. เมื่อมีความหวังเรื่องการหยุดยิง แต่ฟื้นตัวบางส่วนเมื่อความไม่แน่นอนกลับมาอีกครั้ง
ในวันจันทร์ ผู้นำฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักรแสดงการสนับสนุนประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ที่กรุงลอนดอน ท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ยูเครนยอมรับข้อตกลงสันติภาพที่เสนอโดยรัสเซีย
หุ้นยานยนต์ร่วงลง 0.9% เป็นหนึ่งในกลุ่มที่อ่อนแอที่สุด โดย Ferrari ร่วงลง 3.5% หลังจาก Morgan Stanley ปรับลดคำแนะนำลงทุนเป็นระดับถือ จากเดิมที่แนะนำให้ซื้อ โดยให้เหตุผลว่าศักยภาพการเติบโตระยะสั้นและกลางมีจำกัด
หุ้น Auto1 ขยับขึ้น 1.5% หลัง Jefferies เริ่มแนะนำซื้อ
หุ้น Renk และหุ้น Bayer พุ่งขึ้น 5.5% และ 4.7% ตามลำดับ หลังจากได้รับการปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนจาก Citigroup และ JPMorgan
บรรดานักลงทุนยังคงระมัดระวังก่อนการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% โดยข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME ระบุว่าโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 87.6%