ดัชนีดาวโจนส์พลิกดิ่งลงกว่า 200 จุด หลังดีดตัวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในการซื้อขายช่วงแรก ส่วนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ต่างปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ณ เวลา 00.09 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลบ 203.40 จุด หรือ 0.42% สู่ระดับ 48,500.61 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ลบ 1.08% และ 1.64% ตามลำดับ
นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้นกว่า 600 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
หุ้นกลุ่มกัญชาพุ่งขึ้นในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมผ่อนคลายกฎระเบียบเกี่ยวกับกัญชา
ทั้งนี้ ราคาหุ้น Tilray Brands ซึ่งเป็นบริษัทผลิตกัญชา พุ่งขึ้นมากกว่า 30% ขณะที่ Canopy Growth ดีดตัวขึ้น 23% ส่วน Innovative Industrial Properties ปรับตัวขึ้นมากกว่า 7%
นอกจากนี้ Amplify Seymour Cannabis ETF (CNBS) ซึ่งเป็นกองทุน ETF เกี่ยวกับกัญชา ทะยานขึ้น 27%
The Washington Post รายงานวานนี้ว่า ปธน.ทรัมป์เตรียมสั่งให้หน่วยงานของรัฐจัดประเภทกัญชาใหม่เป็นยาเสพติด Schedule III ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้บริษัทกัญชาอยู่ภายใต้กฎระเบียบด้านภาษีที่ต่างออกไป และช่วยดึงดูดการลงทุน
สำนักข่าว Axios รายงานว่า การจัดประเภทใหม่นี้ ซึ่งจะย้ายกัญชาออกจากกลุ่มเดียวกับเฮโรอีน ไปอยู่ในกลุ่มที่มีอันตรายน้อยกว่า เช่น สเตียรอยด์และยาไทลินอลผสมโคเดอีน จะมีผลในช่วงต้นปีหน้า
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์เคยกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการปรับเปลี่ยนการจัดประเภทกัญชาเมื่อเดือนสิงหาคม
นายเอ็ด โกรแชนส์ จาก Compass Point ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจขนาดกลาง ระบุในรายงานถึงลูกค้าว่า
'สำหรับเรา การที่ปธน.ทรัมป์จัดประเภทกัญชาใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่เป็นคำถามว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่'
นายโกรแชนส์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงตามที่เป็นข่าวจะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมกัญชา และจะเป็นตัวเร่งให้ธนาคารสามารถให้บริการในภาคส่วนนี้ได้ รวมทั้งเปิดทางให้แต่ละรัฐเข้ากำกับดูแลได้
หากปธน.ทรัมป์สั่งให้มีการจัดประเภทกัญชาใหม่ในเดือนมกราคม นายโกรแชนส์คาดว่า สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐ (DEA) จะสรุปกฎระเบียบได้ภายในช่วงฤดูร้อน
ด้านนายบิล เคิร์ก นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Roth กล่าวว่า เขายังคงจับตาดูว่าศาลฏีกาสหรัฐจะทำการตัดสินใจในสัปดาห์หน้าว่าจะรับพิจารณาคดีเกี่ยวกับการที่แต่ละรัฐออกกฎระเบียบควบคุมกัญชา และการออกคำสั่งห้ามของรัฐบาลกลางต่อกัญชาหรือไม่ ซึ่งหากคำตัดสินของศาลเป็นบวกต่ออุตสาหกรรมกัญชา ก็อาจทำให้กรอบเวลาในการปรับกฎระเบียบรวดเร็วขึ้น