ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (17 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลการค้าของญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 49,553.71 จุด บวก 170.42 จุด หรือ +0.35%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,831.43 จุด เพิ่มขึ้น 6.61 จุด หรือ +0.17% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 25,291.44 จุด เพิ่มขึ้น 56.03 จุด หรือ +0.22%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.25% ส่วนดัชนี KOSPI ดีดตัวขึ้น 0.72%
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 9 เดือน และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 4.8% อีกทั้งยังขยายตัวต่อเนื่องหลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือนต.ค.
ส่วนยอดของญี่ปุ่นในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.3% ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5% ส่งผลให้ญี่ปุ่นเกินดุลการค้า 3.223 แสนล้านเยน (2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนประเมินข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 64,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 50,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ลดลง 105,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. แต่อัตราว่างงานในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากนโยบายการค้าที่แข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
หลังการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 0.58% ในปีหน้า ซึ่งมากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในปีหน้า