ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด โดยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปี 2569
ณ เวลา 21.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 233.52 จุด หรือ 0.49% สู่ระดับ 48,185.37 จุด
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การซื้อขายจะเป็นไปอย่างผันผวนในวันนี้ เนื่องจากตรงกับวัน quadruple witching ซึ่งเป็นวันครบกำหนดส่งมอบออปชั่นและสัญญาล่วงหน้ารายไตรมาสของหุ้นรายตัวและดัชนีต่างๆพร้อมกัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงปีละ 4 ครั้ง
หุ้นออราเคิลพุ่งขึ้นกว่า 5% หลังจากที่บริษัทไบต์แดนซ์ยินยอมขายกิจการ TikTok ให้แก่ออราเคิล, ซิลเวอร์เลค และเอ็มจีเอ็กซ์ เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ในชื่อ TikTok USDS Joint Venture LLC
นักลงทุนพากันเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปี 2569 ในการประชุมเดือนมี.ค. เร็วกว่าเดิมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของปี 2569 ในเดือนก.ค. เร็วกว่าเดิมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย. ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่ที่ระดับ 3.00-3.25% ในช่วงสิ้นปี 2569
ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเปิดเผยว่า ทางตลาดยังคงเปิดทำการซื้อขายตามปกติในวันที่ 24 และ 26 ธันวาคม แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศให้ทั้งสองวันดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการก็ตาม
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารวานนี้ ระบุให้หน่วยงานทั้งหมดของรัฐบาลกลางปิดทำการในวันพุธที่ 24 ธันวาคม และวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันก่อนและหลังวันคริสต์มาสตามลำดับ นอกเหนือจากการปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม เนื่องในวันคริสต์มาส ซึ่งเป็นวันหยุดประจำปีของสหรัฐ
คำสั่งดังกล่าวส่งผลให้ข้าราชการสหรัฐไม่ต้องเข้าปฏิบัติหน้าที่ติดต่อกัน 3 วันในระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคม
อย่างไรก็ดี สำหรับหน่วยงานที่มีความสำคัญด้านความมั่นคงแห่งชาติ การป้องกันประเทศ หรือมีความจำเป็นต่อประโยชน์ทางสาธารณะ หัวหน้าหน่วยงานดังกล่าวอาจพิจารณาให้เปิดทำการในวันที่ 24 และ 26 ธันวาคม โดยพนักงานบางส่วนยังคงต้องเข้าปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าว