ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (23 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเหมืองแร่ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางก่อนวันหยุดคริสต์มาส
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,889.22 จุด เพิ่มขึ้น 23.25 จุด หรือ +0.24%
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นต่อจากสัปดาห์ก่อน หลังธนาคารกลางอังกฤษปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งช่วยดันดัชนีขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์
โดยปกติแล้ว ปริมาณการซื้อขายจะลดลงในสัปดาห์ที่มีวันหยุดยาว โดยตลาดจะปิดทำการเร็วกว่าปกติในวันพุธ และปิดทำการในวันพฤหัสบดีเนื่องในวันคริสต์มาส รวมถึงวันศุกร์ซึ่งเป็นวัน Boxing Day
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้น Anglo American พุ่งขึ้น 2.6% ขณะที่หุ้น Antofagasta และหุ้น Rio Tinto เพิ่มขึ้น 1.8% และ 1.1% ตามลำดับ หลังราคาทองแดงพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทะลุระดับ 12,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตัน
หุ้น Anglo American ยังได้แรงหนุนเพิ่มเติม หลัง Wells Fargo เริ่มต้นการวิเคราะห์หุ้น โดยให้คำแนะนำลงทุนที่ระดับ equal weight และตั้งราคาเป้าหมายที่ 17 ดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้น HSBC เพิ่มขึ้น 0.7% และหุ้น Barclays เพิ่มขึ้น 0.8%
ตลอดปีนี้ หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หุ้นการเงิน และหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของดัชนี FTSE 100 ซึ่งปรับตัวขึ้นแล้ว 16% นับตั้งแต่ต้นปี
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์เพิ่มขึ้น 0.4% สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเดียวกันในยุโรป หลัง Novo Nordisk บริษัทขนาดใหญ่ได้รับการอนุมัติจากสหรัฐฯ สำหรับยาลดน้ำหนักชนิดเม็ด
หุ้น Metlen Energy and Metals ปรับตัวขึ้น หลังทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเสร็จสิ้นการทำธุรกรรมด้านพลังงานหมุนเวียนในชิลี
อย่างไรก็ดี ดัชนี FTSE 100 ถูกกดดันจากหุ้น Diageo ที่ลดลง 1.8% ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ขณะที่หุ้น Compass Group ลดลง 1.2%