ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (29 ธ.ค.) ขานรับความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 25,887.33 จุด เพิ่มขึ้น 68.40 จุด หรือ +0.26%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,975.92 จุด เพิ่มขึ้น 12.24 จุด หรือ +0.31% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 50,550.17 จุด ลดลง 200.22 จุด หรือ -0.39%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 1.9% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียขยับลง 0.36%
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำวันที่ 9-10 ธ.ค. ของเฟดในวันอังคารนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันที่ 10 ธ.ค. คณะกรรรมการเฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งติดต่อกัน พร้อมกับเปิดเผยรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้งในปี 2569 ซึ่งสอดคล้องกับการส่งสัญญาณในการประชุมเดือนก.ย.
อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างก็คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเช้านี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็น (Summary of Opinions) ของกรรมการ BOJ โดยระบุว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 18-19 ธ.ค.ที่ผ่านมา กรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับความจำเป็นในการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก แม้ว่า BOJ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้แล้วก็ตาม โดยกรรมการคนหนึ่งเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในทุก ๆ 2-3 เดือน ซึ่งเป็นการเน้นย้ำว่า BOJ ยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ