ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 4.15 จุด กลุ่มกลาโหมโลหะมีค่าฉุดตลาด

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 30, 2025 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันจันทร์ (29 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่าและกลุ่มกลาโหมในสัปดาห์ซื้อขายสุดท้ายของปีนี้

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,866.53 จุด ลดลง 4.15 จุด หรือ -0.04%

ดัชนี FTSE 100 ปิดทรงตัวท่ามกลางการซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบ หลังผ่านช่วงวันหยุดยาว โดยการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน เป็นประเด็นที่ตลาดจับตา หลังทรัมป์ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้าเข้าใกล้ข้อตกลงเพื่อยุติสงครามรัสเซียยูเครน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดแรงขายในหุ้นกลุ่มกลาโหมทั้งในอังกฤษและยุโรป

อย่างไรก็ดี ความหวังดังกล่าวเริ่มลดลง หลังรัสเซียอ้างว่ายูเครนพยายามโจมตีที่พักของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคต่อการเจรจา

หุ้น Babcock International ร่วงลง 3.4% ขณะที่หุ้น BAE Systems และ Rolls-Royce ปรับตัวลง 0.8% และ 1.1% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มอากาศยานและกลาโหมของ FTSE ลดลง 1.1%

หุ้น Endeavour Mining ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองโลหะมีค่า ร่วงลง 4% หลังราคาทองคำและเงินปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงจากระดับสูงสุดก่อนหน้า

หุ้นกลุ่มเหมืองโลหะอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.3% หลังราคาทองแดงลดลง ภายหลังเพิ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ใกล้ระดับ 13,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

ปริมาณการซื้อขายคาดว่าจะยังคงเบาบางในสัปดาห์ที่มีวันทำการน้อยลงอีกสัปดาห์หนึ่ง โดยตลาดหุ้นอังกฤษจะปิดการซื้อขายก่อนเวลาปกติในวันพุธ (31 ธ.ค.) และปิดทำการในวันพฤหัสบดี (1 ม.ค.) เนื่องในวันหยุดปีใหม่

นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นเกือบ 21% แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มกลาโหมจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองและกลุ่มธนาคาร ทั้งนี้ ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และทำผลงานดีกว่าดัชนี STOXX 600 ของยุโรปซึ่งปรับขึ้น 16% รวมถึงดัชนี S&P500 ของวอลล์สตรีทที่เพิ่มขึ้น 17% ในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ