ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (30 ธ.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงในวันจันทร์ (29 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ราคาน้ำมัน WTI ยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกเช้านี้ ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่าการเจรจาสันติภาพซึ่งมีสหรัฐฯ เป็นคนกลางนั้น อาจเผชิญภาวะชะงักงัน หลังจากทางการรัสเซียระบุว่า ยูเครนได้ลอบส่งโดรนโจมตีที่พักของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 50,465.35 จุด ลดลง 61.57 จุด หรือ -0.12%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,961.21 จุด ลดลง 4.07 จุด หรือ -0.10% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 25,751.64 จุด เพิ่มขึ้น 116.41 จุด หรือ +0.45%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.12% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ลดลง 0.02%
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวัน หลังจากจีนได้ประกาศการซ้อมรบครั้งใหม่รอบเกาะไต้หวัน โดยการซ้อมรบได้ดำเนินมาเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ ซึ่งกองทัพจีนระบุว่าเป็นการเตือนกลุ่มที่พยายามแยกตัวเป็นเอกราชและกองกำลังภายนอกที่พยายามเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของจีน
กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออก (Eastern Theater Command) ของจีน ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ช่องแคบไต้หวัน ได้เปิดปฏิบัติการซ้อมรบภายใต้ชื่อ "ภารกิจยุติธรรม 2025" (Justice Mission 2025) ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการ 5 แห่งรอบเกาะไต้หวัน โดยระบุว่าจะมีการฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริง พร้อมสั่งห้ามเรือและเครื่องบินเข้าเขตน่านน้ำและน่านฟ้ารอบเกาะ
ทั้งนี้ ทางการไต้หวันประเมินว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารมากกว่า 100,000 คนที่เดินทางโดยเครื่องบินเข้าและออกจากเกาะไต้หวัน