ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดปี 2568 เหนือ 50,000 จุด ทำสถิติ "ระดับปิดสิ้นปีสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์" เมื่อเทียบกับวันปิดสิ้นปีก่อน ๆ โดยภาพรวมตลอดทั้งปีพุ่งขึ้น 26% ขานรับกระแสความนิยมในเทคโนโลยี AI และความเชื่อมั่นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทากาอิจิ
แม้ภาพรวมทั้งปีจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ในวันซื้อขายวันสุดท้ายของปี ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 50,339.48 จุด ลดลง 187.44 จุด หรือ -0.37%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลาดการเงินของญี่ปุ่นจะปิดทำการตั้งแต่วันพุธถึงวันศุกร์นี้เนื่องในเทศกาลปีใหม่
ปี 2568 ถือเป็นปีที่ตลาดเผชิญความผันผวนอย่างหนัก แต่ดัชนีนิกเกอิยังสามารถทำสถิติพุ่งขึ้นกว่า 10,000 จุดภายในปีเดียว ซึ่งเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง
ในช่วงต้นปี ดัชนีเริ่มเคลื่อนไหวที่ระดับ 40,000 จุด ก่อนเผชิญมรสุมจากนโยบายกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จนดัชนีดิ่งลงถึง 2,644 จุด เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงรายวันรุนแรงที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางแรงเทขายทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม หุ้นเริ่มฟื้นตัวในเดือนก.ค. หลังญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงลดภาษีรถยนต์และสินค้าอื่น ๆ ประกอบกับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และความต้องการ AI ที่พุ่งสูงขึ้นจนกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ดัชนีทะลุ 45,000 จุดในเดือนก.ย.
ดัชนีพุ่งแตะระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 52,411.34 จุดในเดือนต.ค. หลังจากทากาอิจิเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมประกาศนโยบาย "การคลังเชิงรุกอย่างมีความรับผิดชอบ" เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
สำหรับความเคลื่อนไหวในวันนี้ ดัชนีถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้น SoftBank Group เนื่องจากนักลงทุนกังวลเรื่องสถานะทางการเงิน หลังบริษัทประกาศทุ่มงบราว 4 พันล้านดอลลาร์เข้าซื้อกิจการ DigitalBridge Group Inc. ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนด้านดาต้าเซนเตอร์ในสหรัฐฯ
หุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้ได้แก่ กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก และกลุ่มบริการ