ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดนิวไฮต่อเนื่อง รับแรงซื้อหุ้นแบงก์-หุ้นสินค้าโภคภัณฑ์

ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันวันที่ 2 ในวันอังคาร (30 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ดี ปริมาณการซื้อขายบางเบาในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2568

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 592.78 จุด เพิ่มขึ้น 3.53 จุด หรือ +0.60%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,168.15 จุด เพิ่มขึ้น 56.13 จุด หรือ +0.69%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,490.41 จุด เพิ่มขึ้น 139.29 จุด หรือ +0.57% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,940.71 จุด เพิ่มขึ้น 74.18 จุด หรือ +0.75%

ดัชนี STOXX 600 ขยับเข้าใกล้หมุดหมายสำคัญที่ระดับ 600 จุด โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่พุ่งขึ้น 1.3% และหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน (Basic Resources) พุ่งขึ้น 1.7% หลังจากราคาทองคำและโลหะเงินฟื้นตัว

หุ้นกลุ่มพลังงานขยับขึ้น 0.7% โดยแม้ว่าราคาน้ำมันเบรนท์ปรับตัวลงเล็กน้อยในวันอังคาร แต่ราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะได้ปัจจัยหนุนจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากรัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนได้ส่งโดรนโจมตีบ้านพักของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งสัญญาณว่า การเจรจาสันติภาพซึ่งมีสหรัฐฯ เป็นคนกลางนั้น อาจเผชิญภาวะชะงักงัน

หุ้นกลุ่มยุทโธปกรณ์และอากาศยาน พุ่งขึ้น 1.4% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปให้คำมั่นว่าจะเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ

สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Fresnillo ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 6.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นดังกล่าว พร้อมกับปรับเพิ่มคำแนะนำการลงทุนเป็น "Buy"

หุ้น Airbus ดีดตัวขึ้น 1.5% หลังจากสายการบิน Air China ได้ลงนามในข้อตกลงซื้อเครื่องบิน Airbus รุ่น A320NEO จำนวน 60 ลำ คิดเป็นมูลค่า 9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ