ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,468.41 จุด ลดลง 37.78 จุด หรือ -0.58%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการก่อนที่สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.7 ในเดือนส.ค. จากระดับ 55.4 ในเดือนก.ค. นับเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบกว่าสองปี และเป็นการขยายตัวเดือนที่สามติดต่อกัน โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และหนุนกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมอาจขยายตัวเร็วขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี
ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.ที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2554 นั้น เหนือความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 54
หุ้นบีที กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษเพิ่มขึ้น 2%
หุ้นแอสโซซิเอทเต็ด บริติช ฟู้ดส์ เพิ่มขึ้น 2% หลังจากบริษัทเอ็กเซน บีเอ็นพี พาริบาส์ แนะนำให้ซื้อหุ้นของบริษัท
หุ้นโวดาโฟนลดลง 1.6% หลังจากที่ปิดพุ่งขึ้น 3 วันติดต่อกัน และธนาคารแมคควอรี แบงก์ ได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัทหลังจากที่โวดาโฟนได้ตัดสินใจขายหุ้นในบริษัทร่วมทุนให้กับบริษัทเวอไรซอน คอมมูนิเคชั่นส์ อิงค์.