หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ขยับลง 5.91 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 15,395.47 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 1.59 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 1,700.25 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.26 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 3,767.55 จุด
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยราคาบ้านเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งชะลอลงจากเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 0.9% ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคาบ้านเดือนก.ค.จะเพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนมิ.ย.
รายงานระบุว่า ราคาบ้านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบรายเดือน แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลงในหลายเมือง ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าราคาบ้านอาจถึงจุดสูงสุดไปแล้ว
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาบ้านในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 12.4% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ โดยราคาบ้านเทียบรายปีในเดือนก.ค.นั้นเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2549 หรือในรอบกว่า 7 ปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 12.1% เมื่อเทียบรายปีในเดือนมิ.ย.
ขณะเดียวกัน สำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) รายงานว่า ราคาบ้านในสหรัฐยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นในเดือนก.ค. โดยดัชนีราคาบ้านรายเดือนของ FHFA แสดงให้เห็นว่า ราคาบ้านในเดือนก.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 1.0% จากเดือนก่อนหน้า นับเป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกันที่ราคาบ้านปรับตัวขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ขณะที่แซนดรา ปิอานัลโต ประธานเฟด สาชาคลีฟแลนด์ จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมแห่งหนึ่งซึ่งเฟด ชิคาโก จัดขึ้นในเวลา 8.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น และเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด แคนซัส จะขึ้นกล่าวที่การประชุมเดียวกันในเวลาเที่ยง
ทั้งนี้ หุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟด เซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดอาจตัดสินใจลดวงเงินซื้อพันธบัตรในการประชุมเดือนต.ค. ซึ่งคำกล่าวของเขาได้จุดปะทุความวิตกกังวลในตลาดให้กลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากที่เฟดเพิ่งตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปในการประชุมเมื่อวันที่ 17-18 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน