ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 5.33 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 16,025.53 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.28 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 1,808.37 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 6.23 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 4,068.75 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นหลังจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งได้รับแรงหนุนจากข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่แข็งแกร่งในเดือนพ.ย. และข้อมูลการค้าต่างประเทศของจีนที่ดีเกินคาด
สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยในช่วงสุดสัปดาห์ว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 12.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 5.3% ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าของจีนในเดือนพ.ย.อยู่ที่ 3.38 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ที่ยอดเกินดุลการค้าจีนสูงเกิน 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์
ทางด้านกระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 203,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ที่ว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี จากระดับ 7.3% ในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนต่างก็จับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์จากบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง (เฟด) เพื่อประเมินช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครระบุชัดเจนว่าเฟดจะดำเนินการลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมนโยบายเดือนธ.ค.หรือไม่
นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าจะออกมาสดใส แต่ยังไม่ดีพอที่จะผลักดันให้เฟดชะลอมาตรการ QE ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้