ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดร่วง หลังภาคการผลิตจีนหดตัว,ยอดคนว่างงานสหรัฐเพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 23, 2014 23:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดร่วงลงในวันนี้ หลังจากมีรายงานว่าดัชนีภาคการผลิตของจีนหดตัวลงในเดือนม.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 149.37 จุด หรือ 0.91% แตะที่ 16,223.97 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 14.12 จุด หรือ 0.77% แตะที่ 1,830.74 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 32.83 จุด หรือ 0.77% แตะที่ 4,210.17 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงหลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนม.ค.ลดลงแตะ 49.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 50.5 ในเดือนธ.ค. เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ซบเซา ซึ่งส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการขยายตัวของภาคการผลิตที่อ่อนแรง หลังจากที่เผชิญปัจจัยลบจากการเติบโตด้านการจ้างงานอยู่แล้ว

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ม.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,000 ราย แตะที่ 326,000 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น 4,000 ราย แตะระดับ 330,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะฟื้นตัว

นอกจากนี้ สำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) รายงานว่า ราคาบ้านของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% สะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นอัลโค อิงค์ ปรับลง 0.3% และหุ้นคลิฟท์ เนเชอรัล รีซอสเซส ดิ่งลง 2.5% หลังจากสัญญาโลหะที่ใช้ในอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง ภายหลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เปิดเผยว่า ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนม.ค.หดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม หุ้นอีเบย์ ดีดขึ้น 1.5% ส่วนหุ้นเนทฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 17%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ