ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,272.65 จุด เพิ่มขึ้น 74.24 จุด หรือ +0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,854.29 จุด เพิ่มขึ้น 9.13 จุด หรือ +0.49% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,318.93 จุด เพิ่มขึ้น 26.87 จุด หรือ +0.63%
นางเยลเลนได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยกล่าวว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐชะลอตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจจะเป็นผลกระทบจากสภาพอากาศที่เลวร้าย พร้อมกล่าวว่า เฟดจะติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า จนถึงขณะนี้เฟดยังไม่สามารถระบุได้ในเวลานี้ว่าผลกระทบดังกล่าวมีมูลค่ามากเพียงใด ดังนั้นเฟดจะติดตามดูสัญญาณต่างๆที่จะบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นอย่างสอดคล้องกับที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่
ถ้อยแถลงของนางเยลเลนทำให้นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกว่า เฟดอาจจะชะลอแผนการปรับลด QE หากเศรษฐกิจซบเซาลง หลังจากที่เฟดได้ปรับลดขนาด QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในการประชุมเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาค่อนข้างเป็นบวก โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ก.พ. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 348,000 ราย แต่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานติดต่อกันโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 338,250 ราย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์มองว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่ค่อนข้างดี
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนม.ค. ปรับตัวลดลง 1% แต่เป็นการปรับตัวลงที่น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.5% และหากนับไม่รวมสินค้าหมวดขนส่งซึ่งมีความผันผวนสูง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว
หุ้นเจซี เพนนีย์ พุ่งขึ้น 25.34% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2556 ที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนเวริซอน ปรับตัวขึ้น 2.5% หุ้น 3M ปรับตัวขึ้น 1.1%