ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 48.67 จุด หรือ 0.29% แตะที่ 16,565.30 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 6.03 จุด หรือ 0.32% แตะที่ 1,882.50 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 7.42 จุด หรือ 0.18% แตะที่ 4,093.21 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดการผลิตของภาคโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค หดตัวลง 0.6% ในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต ปรับตัวลดลง 0.7% สู่ระดับ 78.6% เนื่องจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ของสหรัฐได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิต
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมจะขยับลงเพียง 0.1% และอัตราการใช้กำลังการผลิตจะขยับลงเล็กน้อย สู่ระดับ 79% โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นข้อมูลที่ตลาดการเงินจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะสามารถชี้วัดแนวโน้มของเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่ภาคการผลิตชะลอตัวลงก่อนหน้านี้อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่เลวร้าย
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่งจากข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 พ.ค. ลดลง 24,000 ราย สู่ระดับ 297,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 320,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
หุ้นวอลมาร์ท ร่วงลง 2% หลังจากบริษัทคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 จะอยู่ที่ 1.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.28 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยการคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่วอลมาร์ทรายงานว่า กำไรไตรมาสแรกลดลงสู่ระดับ 1.10 ดอลลาร์ต่อหุ้น อันเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในสหรัฐ
ขณะที่หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 7.8% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 2 จะอยู่ที่ 1.23 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์