ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดลบ หลังเดินหน้าทำสถิติปิดสูงสุดอย่างต่อเนื่อง

หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 23 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 16,920 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 1,948 จุด และดัชนี Nasdaq ลบ 3 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 4,333 จุด

ดัชนีหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์เดินหน้าขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ส่วนดัชนี S&P 500 เดินหน้าปิดสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ซึ่งเป็นการทำสถิติครั้งที่ 19 แล้วในปีนี้ ขณะที่ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน

เศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ แต่มั่นคง ประกอบกับนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและอัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคารกลาง เป็นปัจจัยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า หลังจากที่ดัชนีเดินหน้าทำสถิติใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และการที่ไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวใหม่ๆมากระตุ้นการซื้อขาย กิจกรรมในตลาดหุ้นจึงค่อนข้างเงียบเหงา ดังเห็นได้จากปริมาณการซื้อขายโดยรวมเมื่อวันจันทร์ซึ่งต่ำกว่าวอลุ่มเฉลี่ยต่อวันในปีนี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้ สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2550 หรือก่อนที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งหลังสุด

NFIB เปิดเผยว่า ดัชนีมุมมองเชิงบวกของธุรกิจขนาดเล็ก ปรับตัวขึ้น 1.4 จุด สู่ระดับ 96.6 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 95.2 ในเดือนเม.ย.

อย่างไรก็ดี แม้ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้ว แต่ NFIB เตือนว่า ดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่ามากจากระดับที่บ่งชี้ถึงการขยายตัว

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลภาคค้าส่งเดือนเม.ย.ในวันนี้