ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 102.04 จุด หลังเวิล์ดแบงก์ลดคาดการณ์ศก.โลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 12, 2014 06:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,843.88 จุด ร่วงลง 102.04 จุด หรือ -0.60% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,331.93 จุด ลดลง 6.07 จุด หรือ -0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,943.89 จุด ลดลง 6.90 จุด หรือ -0.35%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันหลังจากที่ธนาคารโลกได้ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (Global Economic Prospects) โดยได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 2.8% จากที่เคยประเมินไว้ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 3.2% พร้อมระบุว่ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีการขยายตัวที่น่าผิดหวัง

ทั้งนี้ ธนาคารโลกระบุว่า "กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอาจจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังในปีนี้ โดยภาวะอ่อนแอทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ได้ส่งผลให้การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจนั้น ล่าช้าออกไป นอกจากนี้ สภาพอากาศที่เลวร้ายในสหรัฐ ประกอบกับวิกฤตการณ์ในยูเครน ภาวะไร้สมดุลทางเศรษฐกิจของจีน และความขัดแย้งทางการเมืองในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางหลายประเทศ ก็ทำให้ความคืบหน้าด้านการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเป็นไปอย่างล่าช้าด้วย"

ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาลงสู่ระดับ 4.8% ในปีนี้ จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 5.3% ซึ่งนับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาขยายตัวต่ำกว่า 5% อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจในประเทศกลุ่มนี้จะขยายตัวขึ้น 5.4% ในปี 2558 และ 5.5% ในปี 2559

สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐนั้น ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ลงเหลือ 2.1% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.8% แต่ธนาคารโลกยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้

หุ้นโบอิ้งร่วงลง 2.3% หลังจากมีรายงานว่านายอิริค แคนเตอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐ พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเบื้องต้น ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าอาจจะทำให้สภาคองเกรสมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการกู้ยืมเงินดอกเบี้ยต่ำ และจะส่งผลกระทบต่อโบอิ้งด้วย

หุ้นฮิลตัน เวิล์ดไวด์ โฮลดิงส์ ร่วงลง 2.7% หลังจากมีรายงานว่าทางบริษัทจะขายหุ้นจำนวน 90 ล้านหุ้นที่แบล็คสโตน กรุ๊ป ถือครองอยู่ ขณะที่หุ้นอนาดาร์โค ปิโตรเลียม ปรับตัวขึ้น 4.2%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., ราคานำเข้าและส่งออกดือนพ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ