หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 18.31 จุด หรือ 0.11% แตะ 16,918.95 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.74 จุด หรือ 0.14% แตะ 1,959.87 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq บวก 3.20 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 4,371.87 จุด
อย่างไรก็ดี หลังจากนั้น ดัชนีดาวโจนส์ดีดขึ้น 8.68 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 16,945.94 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 1.61 จุด หรือ 0.08% แตะที่ 1,964.22 จุด และดัชนี Nasdaq บวก 19.48 จุด หรือ 0.45% สู่ระดับ 4,388.15 จุด
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองในเดือนเม.ย. ปรับตัวขึ้น 10.8% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวจาก 12.4% ในเดือนมี.ค.
ดัชนีราคาบ้านของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ ในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 11.4-11.6% โดยเฉลี่ย และต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ 13.7% ในเดือนพ.ย.
ขณะที่เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ติดตามสำรวจราคา ปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน แต่หากมีการปรับตามปัจจัยฤดูกาล ราคาบ้านในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2555 เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนมี.ค.
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 18.6% แตะที่ 504,000 ยูนิต นับเป็นสัญญาณถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวรุนแรงเมื่อช่วงต้นปีนี้
ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2535 หรือในรอบ 22 ปี และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2551 หรือในรอบ 6 ปี
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% สู่ระดับ 435,000-440,000 ยูนิตโดยเฉลี่ยในเดือนพ.ค.
ส่วนคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยในวันเดียวกันว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะ 85.2 ในเดือนมิ.ย. จาก 82.2 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีเดือนมิ.ย.สูงกว่าที่นักเศรษฐศาตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 83.5