ดาวโจนส์ปรับตัวลง 51 จุด หลังสหรัฐ,อียูออกคว่ำบาตรต่อรัสเซียรอบใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 17, 2014 19:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วง 51 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 17,006 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าร่วง 0.6% ลงสู่ระดับ 1,963.9 จุด เมื่อเวลา 7.27 น.ตามเวลานิวยอร์ก หลังจากที่สหรัฐและสหภาพยุโรปออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียรอบใหม่

หุ้นแซนดิสก์ ร่วง 8.2% ภายหลังเปิดเผยตัวเลขประมาณการส่วนต่างกำไรและยอดขายที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังจากบริษัทเผยว่าผลประกอบการในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.94 พันล้านดอลลาร์ หรือ 94 เซนต์/หุ้น หุ้นอีเบย์ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังบริษัทเปิดเผยตัวเลขประมาณการรายรับในไตรมาส 3 อยู่ที่ 4.3-4.4 พันล้านดอลลาร์

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลงภายหลังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่บรรดาผู้นำของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ได้ตัดสินใจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียในการประชุมคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับสหรัฐอเมริกา อันเนื่องมาจากมาตรการคลี่คลายวิกฤติยูเครนของรัสเซียนั้น ไม่เป็นที่น่าพอใจ

แถลงการณ์ระบุว่า คณะกรรมาธิการอีซีมีมติคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายที่กลุ่มองค์กรต่างๆ รวมถึงองค์กรรัสเซีย ซึ่งมีพฤติกรรมสนับสนุนด้านวัตถุและการเงินต่อขบวนการบ่อนทำลายหรือเป็นภัยคุกคามต่ออำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และเอกราชของยูเครน

ขณะที่สหรัฐพิจารณาออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียรอบใหม่ โดยเพ่งเล็งธุรกิจสัญชาติรัสเซียหลายแห่ง ซึ่งรวมไปถึง OAO Rosneft บริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย และ OAO Novatek ซึ่งเป็นบริษัทผลิตก๊าซธรรมชาติ

สำหรับปัจจัยด้านเศรษฐกิจนั้น ก่อนหน้านี้นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรส โดยกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ในเดือนต.ค.นี้ โดยไม่หวั่นว่าอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ พร้อมกับย้ำว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกสักระยะ แต่ขณะเดียวกันก็แย้มว่าการขึ้นดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด หากตลาดแรงงานยังดีต่อเนื่อง

นักลงทุนจับตาตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย. ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในคืนนี้เวลา 19.30 น. นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนมิ.ย.จะอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิต จากระดับ 1 ล้านยูนิตในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ตัวเลขขอรับสวัสดิการครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ค. ซึ่งจะเปิดเผยในเวลาเดียวกันนั้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 310,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ