หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 34.58 จุด หรือ 0.20% ที่ระดับ 17,112.86 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 4.00 จุด หรือ 0.20% แตะ 2,004.72 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 13.55 จุด หรือ 0.30% สู่ระดับ 4,586.11 จุด
แถลงการณ์ของอีซีบีระบุว่า ดอกเบี้ยพื้นฐานที่อีซีบีเรียกเก็บจากเงินกู้ที่ปล่อยให้แก่สถาบันการเงิน (Main refinancing operation) จะลดลงสู่ระดับ 0.05% และดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับอีซีบี (Deposit facility) จะลดลงสู่ระดับ -0.2%
นอกจากนี้ นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีได้กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า อีซีบียังได้ตัดสินใจที่จะเริ่มซื้อสินทรัพย์ภาคเอกชนที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งได้แก่ ตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds)
หุ้นยุโรปพุ่งแรงทันที หลังจากที่อีซีบีประกาศมาตรการกระตุ้นดังกล่าว ส่วนเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปีเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง และน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 212,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 ส.ค. เพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 302,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 300,000 ราย
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนก.ค. ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 4.05 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 4.08 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัวขึ้นทำสถิติสูงสุด