ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงขายหุ้นพลังงาน ถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 5.88 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 15, 2014 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการพลังงานทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ปิดในแดนบวก เพราะตลาดได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่สดใสของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐ รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,315.19 จุด ลดลง 5.88 จุด หรือ -0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,227.17 จุด เพิ่มขึ้น 13.51 จุด หรือ +0.32% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,877.70 จุด เพิ่มขึ้น 2.96 จุด หรือ +0.16%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดถูกกระหน่ำขายอย่างหนักติดต่อกัน 3 วันทำการ ก่อนที่ดัชนีดาวโจนส์จะอ่อนแรงลงในเวลาต่อมาและปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจาก IEA ปรับลดคาดการณ์ความต้องการทั่วโลก โดยหุ้นเชฟรอน หุ้นชลัมเบอร์เกอร์ และโคโนโคฟิลิปส์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 2%

อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่ดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ปิดในแดนบวก หลังจากธนาคารรายใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่สดใส โดยเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ พลิกกลับมาทำกำไรในไตรมาสสอง เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายที่ลดลง

เจพีมอร์แกน เชส รายงานกำไรสุทธิที่ 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสสาม เทียบกับที่ขาดทุนสุทธิ 0.4 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อน โดยมีรายได้ 2.52 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.36 ดอลลาร์ ซึ่งผิดไปจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะที่ เวลส์ ฟาร์โก แอนด์ คอมพานี ซึ่งเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยรายใหญ่สุดของสหรัฐ รายงานผลกำไรต่อหุ้นที่ 1.02 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 99 เซนต์ในปีที่แล้ว และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด

ส่วนซิตี้กรุ๊ป อิงค์ เผยกำไรต่อหุ้นปรับลดอยู่ที่ 1.15 ดอลลาร์ในไตรมาสสาม ซึ่งเพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% แตะ 1.998 หมื่นล้านดอลลาร์ ผลประกอบการของซิตี้กรุ๊ปออกมาดีกว่าที่ตลาดประมาณการไว้

ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ขยับลง 0.3% หลังจากที่ร่วงลง 3.6% ในช่วงแรก ขณะที่หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวลง 2.7% และหุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ