ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,024.17 จุด เพิ่มขึ้น 64.73 จุด หรือ +0.36% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,765.42 จุด ลดลง 16.00 จุด หรือ -0.33% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,082.17 จุด เพิ่มขึ้น 3.63 จุด หรือ +0.17%
นักลงทุนขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2557 ขยายตัว 5% ซึ่งเป็นการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 3.9% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ระดับ 4.6% เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.3%
ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 93.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2550 และเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.ที่ระดับ 88.8
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อน ส่วนรายได้ส่วนบุคคล ปรับตัวขึ้น 0.4%
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอบางรายการของสหรัฐ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.ที่ปรับตัวลดลง 1.6% สู่ระดับ 438,000 ยูนิต จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 445,000 ยูนิต และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.ของสหรัฐปรับตัวลดลง 0.7% ซึ่งส่งสัญญาณว่าภาคธุรกิจได้ปรับลดระดับการลงทุนลงในช่วงท้ายปี
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 1.52%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ในวันนี้ตามเวลาไทย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ค. ปรับตัวลง 6,000 ราย แตะที่ 289,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ และเป็นสัญญาณล่าสุดว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง