ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,038.23 จุด ลดลง 15.48 จุด หรือ -0.09% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,090.57 จุด เพิ่มขึ้น 1.80 จุด หรือ +0.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,806.91 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด หรือ +0.00%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศกรีซ หลังจากมีรางานว่ารัฐสภากรีซไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศได้สำเร็จในการลงคะแนนเสียงแบบขานชื่อ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และเป็นรอบสุดท้ายในวันนี้ ซึ่งความล้มเหลวดังกล่าว จะส่งผลให้กรีซต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดในช่วงปลายเดือนมกราคม หรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ตามรัฐธรรมนูญของประเทศ
สถานการณ์ทางการเมืองของกรีซเป็นที่จับตาของตลาดการเงิน หลังจากที่นายกรัฐมนตรี แอนโทนิส ซามาราส เดิมพันอนาคตทางการเมืองด้วยการประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า รัฐสภากรีซจะลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีคนใหม่เร็วกว่ากำหนดการเดิมสองเดือน ซึ่งหากรัฐสภาไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ได้ นายซามาราสก็จำเป็นที่จะต้องประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด ซึ่งมีแนวโน้มว่าพรรคไซรีซา ซึ่งต่อต้านการรัดเข็มขัด จะคว้าชัยชนะ อันอาจนำไปสู่การผ่อนปรนนโยบายรัดเข็มขัดและยกเลิกการปฏิรูปแผนการคลังของกรีซ และจะเพิ่มความเสี่ยงต่อสถานะการเงินของประเทศ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงช่วงปลายปี หลังจากที่ตลาดปิดบวกติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ว่า เฟดสามารถ "อดทน" รอต่อไปได้อีก ในการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงก็ตาม ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง นำโดยหุ้นไอบีเอ็ม หุ้นอินเทล และหุ้นไมโครซอฟท์ ที่ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 0.9%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันอังคาร รวมถึงราคาบ้านของสหรัฐเดือนต.ค.จากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค.จาก Conference Board