ณ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กอยู่ที่ 17,766.62 จุด ดิ่งลง 228.97 จุด หรือ 1.27%
นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันได้กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน
ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคจากกรีซจะเปิดการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจในวันพุธนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก EU, ECB และ IMF หลังจากที่รมว.คลังของยูโรโซนจัดการประชุมหารือเมื่อวานนี้เกี่ยวกับปัญหาทางการเงินของกรีซ และความพยายามในการปฏิรูป
นายวูล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนี กล่าวในวันนี้ว่า จะไม่มีการมอบเงินช่วยเหลือให้กับกรีซ จนกว่ากลุ่มสถาบันเจ้าหนี้จะเห็นพ้องกันว่ากรีซได้ยื่นแผนปฏิรูปเศรษฐกิจตามที่ได้ให้สัญญาไว้
"กรีซจะต้องพูดกับสถาบันเจ้าหนี้เพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีการทำตาม MOU แล้ว เมื่อนั้นถึงจะมีความเป็นไปได้ที่ว่าจะมีการจ่ายเงินช่วยเหลือกรีซ" เขากล่าว
ดอลลาร์พุ่งทำนิวไฮ 12 ปีเทียบยูโร และ 8 ปีเทียบเยนในวันนี้
ยูโรดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 1.08 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 12 ปีในวันนี้ จากการที่ ECB ดำเนินมาตรการผ่อนคลายสภาพคล่อง (QE) ด้วยการซื้อพันธบัตร 6 หมื่นล่านยูโรในเดือนนี้ ขณะที่ดอลลาร์ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
ยูโรร่วงแตะ 1.07345 ดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 12 ปี
เยนปรับตัวลงเช่นกัน จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซาของญี่ปุ่น ส่งผลให้เยนอ่อนค่าลงแตะ 122.04 เมื่อเทียบดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2007
ดัชนีดอลลาร์ดีดตัวแตะ 98.196 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีครึ่ง หลังจากพุ่งขึ้นแล้ว 3% ในเดือนนี้
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
ณ เวลา 18.31 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนเม.ย.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 45 เซนต์ แตะ 49.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไปนั้น ยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 9.324 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526
ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือนก.พ.ของกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 30.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียเพิ่มขึ้น 130,000 บาร์เรล แตะ 9.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน