ณ เวลา 21.20 น.ตามเวลาไทย ดัชนี FTSEurofirst 300 ร่วงลง 0.9% อยู่ที่ 1,552.87 จุด ต่ำกว่าระดับ 1,579.93 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
ดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษดิ่งลง 1.6% ดัชนี DAX ของเยอรมนี ร่วงลง 1.2% และดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสรูดลง 1.3%
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
ณ เวลา 22.52 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนเม.ย.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 68 เซนต์ หรือ 1.36% แตะ 49.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไปนั้น ยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 9.324 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526
ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือนก.พ.ของกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 30.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียเพิ่มขึ้น 130,000 บาร์เรล แตะ 9.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลต่อความไม่แน่นอนของการเจรจามาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซในวันพรุ่งนี้
นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป กล่าวในวันนี้ว่า กรีซจะต้องรีบดำเนินการตามเงื่อนไขในข้อตกลงเงินกู้ มิฉะนั้น ตลาดการเงินจะสูญเสียความเชื่อมั่นต่อประเทศ
เขาระบุว่า กรีซจะต้องรีบเจรจากับผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่กรุงเอเธนส์ และเจรจากับเจ้าหนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ในวันพรุ่งนี้
นายดิจเซลโบลมกล่าวก่อนหน้านี้ว่า จะมีการส่งทีมเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ไปยังกรีซเพื่อสนับสนุนกระบวนการนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้
ประธานยูโรกรุ๊ปได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพระหว่างกรีซและสถาบันทั้ง 3 นายวูล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนี กล่าวในวันนี้ว่า จะไม่มีการมอบเงินช่วยเหลือให้กับกรีซ จนกว่ากลุ่มสถาบันเจ้าหนี้จะเห็นพ้องกันว่ากรีซได้ยื่นแผนปฏิรูปเศรษฐกิจตามที่ได้ให้สัญญาไว้
"กรีซจะต้องพูดกับสถาบันเจ้าหนี้เพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีการทำตาม MOU แล้ว เมื่อนั้นถึงจะมีความเป็นไปได้ที่ว่าจะมีการจ่ายเงินช่วยเหลือกรีซ" เขากล่าว