ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.6% ปิดที่ 404.34 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,151.19 จุด เพิ่มขึ้น 77.05 จุด หรือ +1.52% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,123.52 จุด พุ่งขึ้น 156.13 จุด หรือ +1.30% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,961.77 จุด เพิ่มขึ้น 128.31 จุด หรือ +1.88%
ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นหลังจากผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 54.2 จาก 53.7 ในเดือนก.พ. โดยกิจกรรมทางธุรกิจพุ่งขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ 8 เดือน ท่ามกลางการปรับตัวดีขึ้นของภาคบริการเยอรมนีและอิตาลี
ส่วนแนวโน้มสำหรับภาคบริการของยูโรโซนยังสดใสในเดือนมี.ค. เนื่องจากมุมมองบวกของภาคธุรกิจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 46 เดือน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายนารายานา โคเชอร์ลาโคตา ประธานเฟดสาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี กว่าที่อัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานจะกลับสู่ระดับปกติ ดังนั้น เฟดจึงน่าจะสามารถรอต่อไปจนถึงปีหน้าสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นายโคเชอร์ลาโคตาสนับสนุนให้เฟดรอจนกว่าจะถึงครึ่งปีหลังของปีหน้าเพื่อขึ้นอัตราดอกเบี้ย และค่อยๆปรับขึ้นทีละน้อยจนแตะระดับ 2% ในปลายปี 2560 หลังจากที่เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2551
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นซีดริลล์ ทะยานขึ้น 15% หุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 5.5% หุ้นเกล็นคอร์ ปรับขึ้น 3.5% และหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 2.9%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลง หลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นกลุ่มสายการบิน โดยหุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดทเต็ด แอร์ไลน์ส ร่วงลง 1.2% หุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ปรับลง 1.9%