ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 27.09 จุด เหตุนักลงทุนคลายกังวลเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 9, 2015 06:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เนื่องจากรายงานการประชุมล่าสุดของเฟดนั้น ไม่มีความชัดเจนในเรื่องการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ตลาดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,902.51 จุด เพิ่มขึ้น 27.09 จุด หรือ +0.15% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,950.82 จุด เพิ่มขึ้น 40.59 จุด หรือ +0.83% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ 2,081.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.57 จุด หรือ +0.27%

นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของเฟดนั้น เจ้าหน้าที่เฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก เกี่ยวกับระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนมองว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.ได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดอีกจำนวนหนึ่งมองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยควรจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่เฟดบางคนมองว่า ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐในเวลานี้ ยังไม่พร้อมที่เฟดจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินจนกว่าจะถึงปีหน้า

ก่อนหน้าที่เฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมนั้น นายเจโรม โพเวลล์ ซึ่งเป็นผู้ว่าการคนหนึ่งของเฟดกล่าวว่า เขาเต็มใจที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ แม้ขณะนี้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ แต่เขาก็เตือนว่าเฟดควรดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้นอย่างช้าๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากวิกฤตการณ์

ขณะที่นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดยังคงสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ถ้าหากข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงการขยายตัวในช่วง 2 เดือนข้างหน้า ถึงแม้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะอ่อนแอในช่วงต้นปี

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่สูงขึ้น

หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 3.4% ซึ่งนอกเหนือจากผลกระทบของการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบแล้ว ราคาหุ้นยังร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า รอยัล ดัทช์ เชลล์เสนอซื้อกิจการบริษัทบีจี กรุ๊ป ซึ่งถือเป็นการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมพลังงาน นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนก.พ., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค. และดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ