ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 27.80 จุด เหตุข้อมูลแรงงานสหรัฐอ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 3, 2015 06:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลแรงงานล่าสุดของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,730.11 จุด ลดลง 27.80 จุด หรือ -0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,009.21 จุด ลดลง 3.91 จุด หรือ -0.08% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,076.78 จุด ลดลง 0.64 จุด หรือ -0.03%

ข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. จากระดับ 254,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. โดยตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 233,000 ตำแหน่ง

ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนเม.ย. โดยปรับลดลงสู่ระดับ 187,000 ตำแหน่งจากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 221,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 27 มิ.ย. เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 281,000 ราย ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 270,000 ราย

นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้ โดยรัฐบาลกรีซต้องการให้ประชาชนชี้ขาดว่าจะรับหรือไม่รับเงื่อนไขในมาตรการรัดเข็มขัดจากทางเจ้าหนี้

อย่างไรก็ตาม นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ได้กล่าวทางสถานีโทรทัศน์ของกรีซ ชักชวนให้ชาวกรีซโหวต "No" ในการทำประชามติเพื่อแสดงท่าทีคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด แต่ถ้าหากชาวกรีซเลือกที่จะโหวต "Yes" ในการสนับสนุนมาตรการดังกล่าว เขาก็จะเคารพผลการลงประชามตินั้น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่า นายซิปราสอาจจะลาออกจากตำแหน่ง และปูทางสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ เนื่องจากรัฐบาลของเขาไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่ซบเซาได้สกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นเรเจียนส์ ไฟแนนเชียล คอร์ป และหุ้นคีย์คอร์ป ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 1.3% ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 1.1% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ขยับลง 0.8%

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 5.1% ขณะที่หุ้น Chesapeake Energy และหุ้น Tesoro Corp. ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 2%

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ *

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ