ราคาน้ำมันทรงตัวในวันนี้ แต่การที่ตลาดหุ้นจีนทรุดตัวลงมากกว่า 6% ได้เป็นปัจจัยกดดันตลาด
ณ เวลา 20.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 5 จุด หรือ 0.03% สู่ระดับ 16,478 จุด
รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศจี-20 จะเข้าร่วมการประชุมเป็นเวลา 2 วันที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยการประชุมจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ ขณะที่คาดว่าจี-20 จะเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากภาวะผันผวนในตลาด ซึ่งได้สร้างความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมจะหารือแนวทางในการรับมือการทรุดตัวของราคาน้ำมัน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
นอกจากนี้ คาดกันว่าที่ประชุมจะพิจารณาประเด็นนโยบายการเงินของสหรัฐ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลออกจากประเทศตลาดเกิดใหม่
ทั้งนี้ กลุ่มจี-20 ประกอบด้วยสหรัฐ, สหภาพยุโรป, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, แคนาดา, ออสเตรเลีย, รัสเซีย, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อินเดีย, อินโดนีเซีย, อาร์เจนตินา, บราซิล, เม็กซิโก, ซาอุดิอาระเบีย, แอฟริกาใต้ และตุรกี
ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานระบุว่า ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานยังคงอ่อนแอ
"ปัจจุบันเรากำลังอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูงมากต่อการขยายตัวในระดับโลก และตลาดสินทรัพย์ต่างๆ หลังจากช่วงเวลาที่ค่อนข้างสงบเป็นเวลา 2-3 ปี โดยการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมีความอ่อนแออย่างมากในไตรมาส 4 ที่ระดับ 2.0%" รายงานระบุ
ซิตี้กรุ๊ปชี้ว่า ปัจจัยพื้นฐานยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และกลไกอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่ยั่งยืน รวมทั้งความเสี่ยงที่อังกฤษอาจถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU)
ซิตี้กรุ๊ปให้นิยามคำว่าเศรษฐกิจถดถอยคือ การขยายตัวที่ระดับต่ำกว่า 2% ซึ่งแตกต่างจากนิยามขององค์กรอื่นๆที่ระบุว่า เศรษฐกิจถดถอยคือ การที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปรับตัวลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ซิตี้กรุ๊ปคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.5% ในปีนี้ โดยอิงจากตัวเลขสถิติอย่างเป็นทางการ และจะอยู่ที่ 2.2% จากการปรับค่าสำหรับความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจีนอาจมีการบันทึกไม่ถูกต้อง
ตัวเลขคาดการณ์ของซิตี้กรุ๊ปต่ำกว่าของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.4% ในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 3.1% ของปี 2015
อย่างไรก็ดี IMF ระบุเตือนว่าอาจทำการปรับลดตัวเลขการขยายตัวสำหรับปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวแคบในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ปัจจัยดังกล่าวก็ได้รับการชดเชยจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในระดับสูงในสหรัฐ
ณ เวลา 19.34 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX บวก 1 เซนต์ หรือ 0.03% สู่ระดับ 32.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 507.6 ล้านบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 333,000 บาร์เรล สู่ระดับ 65 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 256.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 3 แสนบาร์เรล ได้บ่งชี้ถึงความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจำนวนมากในสหรัฐ
นอกจากนี้ ช่วงขาขึ้นของตลาดที่เกิดจากความคาดหวังที่ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกจะสามารถจับมือกันหนุนให้ราคาฟื้นตัวขึ้น ก็ได้ชะลอตัวลงแล้ว หลังจากที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการใดๆที่เป็นรูปธรรม