ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกุล่มเหมือง หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพราะได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.63 จุด หรือ 0.42% แตะที่ระดับ 6,201.12 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติ 9-1 ในการประชุมเมื่อวานนี้ ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% พร้อมกับคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 2 ครั้งในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 4 ครั้ง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ BoE คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ BoE ยังมีมติคงวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3.75 แสนล้านปอนด์
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ นำโดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ผู้ผลิตพลาตินัมรายใหญ่ของอังกฤษพุ่งขึ้น 9.8% ในขณะที่หุ้นเกลนคอร์ พุ่งขึ้น 8.4% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตันเพิ่มขึ้น 7.7% ถึงแม้ว่าบริษัทโนมูระจะปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบีเอชพี ซึ่งเป็นผู้ผลิตแร่เหล็กรายใหญ่ก็ตาม
หุ้นอินเตอร์เนชั่นแนล โฮเท็ล กรุ๊ป ลดลง 1.6% หลังจากบริษัทมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของโรงแรม
หุ้นแกลกโซสมิธไคลน์ เพิ่มขึ้น 1.72% หลังประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทระบุว่าเขามีแผนจะเกษียณงานหลังจากที่ดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลา 10 ปี