ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงต่อภาคบ่าย เหตุวิตกแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงต่อในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ แม้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของญี่ปุ่นจะขยายตัวขึ้นก็ตาม

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 25,671.48 จุด ลดลง 102.13 จุด, -0.40% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 19,781.67 จุด ลดลง 337.13 จุด, -1.68% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,633.32 จุด ลดลง 0.07 จุด, 0.00%

เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 2 รายกล่าวเมื่อวานนี้ เฟดยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้

ทั้งนี้ นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขายังคงเชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้

นอกจากนี้ นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟด สาขาซาน ฟรานซิสโก กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2559 ขยายตัว 1.7% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 0.4% เพราะได้แรงหนุนจากการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนที่ฟื้นตัวขึ้น

สำหรับตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 60% ในตัวเลข GDP ญี่ปุ่นนั้น ปรับตัวขึ้น 0.5% หลังจากที่หดตัวลง 0.8% ไตรมาส 4/2558

ยอดส่งออกปรับตัวขึ้น 0.6% หลังจากที่ปรับตัวลง 0.8% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงฟื้นตัวในเดือนเม.ย. โดยผลการสำรวจเผยให้เห็นว่า ราคาบ้านใหม่ในเมืองใหญ่ๆปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบรายเดือน

NBS ระบุว่า จากการสำรวจเมืองขนาดกลางและขนาดใหญ่จำนวน 70 เมืองในเดือนเม.ย. พบว่า ราคาบ้านใหม่ใน 65 เมืองปรับสูงขึ้น เทียบกับ 62 เมืองในเดือนก่อนหน้า