ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา ขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลง
ณ เวลา 20.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,672.97 จุด ร่วงลง 115.80 จุด หรือ 0.65%
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงในวันนี้หนักที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดวันนี้ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงกว่า 1% ในวันนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะไม่มีการตรึงกำลังการผลิตเมื่อมีการประชุมกันในวันพรุ่งนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนที่จะกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน
ณ เวลา 18.59 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 59 เซนต์ หรือ 1.20% สู่ระดับ 48.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์คาดว่าสมาชิกโอเปกจะให้ความสนใจต่อการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของตน มากกว่าที่จะจำกัดการผลิตน้ำมัน สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน อยู่ที่ระดับ 50.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของเดือนเม.ย. อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ภาคบริการของจีน อยู่ที่ระดับ 53.1 ในเดือนพ.ค. โดยชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.5 และจากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 53.8 นอกจากนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน ปรับตัวลดลงแตะ 49.2 ในเดือนพ.ค. จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 49.4 ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.อยู่ในระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากการผลิตชะลอตัวลง ขณะที่ยอดสั่งซื้อใหม่ในภาคการผลิตของจีนปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ ซึ่งหากตัวเลขจ้างงานออกมาแข็งแกร่ง ก็จะหนุนการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนหน้า