ตลาดหุ้นเอเชียฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้น ภายหลังจากที่มีกระแสวิเคราะห์ที่ว่า การเสียชีวิตของ โจ ค็อกซ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติพรรคแรงงานอังกฤษนั้น อาจจะทำให้ชาวอังกฤษตัดสินใจเลือกที่จะอยู่ต่อในสหภาพยุโรป (EU )
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 26,653.85 จุด เพิ่มขึ้น 128.39 จุด, +0.48% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 20,188.27 จุด เพิ่มขึ้น 149.85 จุด, +0.75% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,621.30 จุด เพิ่มขึ้น 6.40 จุด, +0.40%
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดเอเชียช่วงเช้า ขยับขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.6% แตะที่ 46.48 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit)
สำหรับความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นได้คงการประเมินเศรษฐกิจภายในประเทศในวันนี้ โดยระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวปานกลาง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ปรับลดมุมมองผลกำไรของบริษัทเอกชน เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลง และเงินเยนแข็งค่าขึ้น
รายงานของคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่า รัฐบาลได้คงการประเมินเศรษฐกิจติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวปานกลาง โดยเมื่อไม่นานมานี้ เศรษฐกิจได้ส่งสัญญาณให้เห็นถึงการอ่อนแรงลง เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง แต่รายได้และภาวะการจ้างงานปรับตัวดีขึ้น
อังกฤษระงับการรณรงค์หาเสียงเรื่องการลงประชามติว่าอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปหรือไม่ (Brexit ) ที่ววางแผนไว้ว่าจะจัดขึ้นในวันนี้ ภายหลังจากที่เกิดเหตุสังหาร โจ ค็อกซ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติสังกัดพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษเสียชีวิตการถูกยิงและแทงในเขตเลือกตั้งของเธอทางตอนเหนือของอังกฤษเมื่อวานนี้ ขณะที่กำลังเตรียมจัดการประชุมเพื่อพบปะกับประชาชนในเมืองเบอร์สทอล ซึ่งอยู่ใกล้เมืองลีดส์