ดาวโจนส์เปิดบวก หลังราคาน้ำมันดีดขึ้น, จับตาตัวเลขจ้างงานพรุ่งนี้

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ หลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น และก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันพรุ่งนี้

ณ เวลา 20.39 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,956.08 จุด เพิ่มขึ้น 37.46 จุด หรือ 0.21%

ภาวะการซื้อขายช่วงเปิดตลาดวันนี้เป็นไปในทิศทางบวก หลังจากที่สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดีดตัวขึ้น 1.4% ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันนี้ เวลา 21.30 น. ตามเวลาไทย

นอกจากนี้ การซื้อขายยังได้ปัจจัยหนุนส่วนหนึ่งจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงเกินคาด ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับผลพวงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงประชามติออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร ขณะที่นักลงทุนรอดูรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย. ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 254,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเม.ย. หรือในรอบเกือบสามเดือน

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 2,500 สู่ระดับ 264,750 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

ด้านออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 172,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 150,000-160,000 ตำแหน่ง

การเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ในวันนี้ มีขึ้นก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ในวันศุกร์นี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าการจ้างงานเดือนมิ.ย.โดยกระทรวงแรงงานน่าจะเพิ่มขึ้นถึงราว 170,000-180,000 ตำแหน่งโดยประมาณ หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 38,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2553 ขณะที่อัตราการว่างงานลดลง 0.3% สู่ระดับ 4.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2550 หลังจากอยู่ที่ 5.0% ในเดือนเม.ย.

ทั้งนี้ ผลสำรวจของ ADP รวบรวมเฉพาะการจ้างงานในภาคเอกชน ขณะที่ข้อมูลการจ้างงานของสำนักงานสถิติแรงงานของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ จะครอบคลุมการจ้างงานภาครัฐด้วย

ในส่วนของความเคลื่อนไหวภาคธุรกิจนั้น หุ้นเป๊ปซี่โคพุ่ง 2% หลังบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสสองดีกว่าคาดการณ์