ดาวโจนส์พลิกร่วงแดนลบ แรงขายทำกำไร,ราคาน้ำมันทรุดทุบตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 13, 2016 23:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงในวันนี้ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากที่เปิดตลาดดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ซึ่งดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 สามารถปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ณ เวลา 22.59 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,328.90 จุด ลดลง 18.77 จุด หรือ 0.10%

การทรุดตัวลงกว่า 4% ของราคาน้ำมัน WTI เป็นปัจจัยฉุดตลาดในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 4% ในวันนี้ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

ณ เวลา 22.54 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 1.90 ดอลลาร์ หรือ 4.06% สู่ระดับ 44.90 ดอลลาร์/บาร์เรล

EIA เปิดเผยในวันนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 3 ล้านบาร์เรล

เมื่อวานนี้ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ระบุว่าสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล

ทางด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุในรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนก.ค.ว่า กลุ่มประเทศตะวันออกกลางผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 31 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงเดือนมิ.ย. ซึ่งสวนทางกับการผลิตน้ำมันของสหรัฐที่ลดลง 140,000 บาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ 12.45 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ IEA ระบุด้วยว่า แม้ตลาดน้ำมันโลกกำลังกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลมากขึ้น แต่สต็อกน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงก็ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเสถียรภาพของราคาน้ำมัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ