ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) และทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากการรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชนช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.50 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 18,533.05 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 5.15 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 2,166.89 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 26.19 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 5,055.78 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยรายงานผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทปิดพุ่งขึ้น 3.29%
ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังจับตาดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่อีกหลายบริษัทที่มีกำหนดจะเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดในสัปดาห์นี้
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง เนื่องจากการขนส่งน้ำมันผ่านทางท่อส่งน้ำมันไปยังเขตเมดิเตอเรเนียนจากอิรักและรัสเซียยังคงเดินหน้าต่อไปหลังความพยายามก่อรัฐประหารในตุรกีประสบความล้มเหลว
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิซิเนส แมชีน หรือ IBM เพิ่มขึ้น 3.1% หลังเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นโค้ช อิงค์ ผู้ผลิตสินค้าหรูหราของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทโรเบิร์ต ดับเบิ้ลยู เบรด แอนด์ โค ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัท
หุ้นมอนสเตอร์ เบฟเวอเรจ คอร์ป ลดลง 3.8% เนื่องจากนักวิเคราะห์ของบริษัทเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค ได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัทโดยระบุว่า คาดว่ามอนสเตอร์ เบฟเวอเรจ จะมีรายได้ลดลงในระยะสั้นเนื่องจากไม่มีสินค้าใหม่ๆออกมากระตุ้นตลาด