ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 26-27 ก.ค.ในคืนนี้
ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,511.21 จุด ลดลง 38.86 จุด หรือ 0.20%
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่กลุ่มธุรกิจรักษาสุขภาพดีดตัวขึ้น
ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปรับตัวลง 2 วันมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.
นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวเมื่อวานนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
"เรากำลังเข้าใกล้ถึงจุดที่มีความเหมาะสมที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ซึ่งผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย." เขากล่าว
"เราจะต้องจับตาข้อมูลเศรษฐกิจ ซึ่งผมคิดว่าขณะนี้อยู่ในภาวะที่น่าพอใจ"
"ผมคิดว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงมีการสร้างงานเพิ่มมากขึ้น" นายดัดลีย์กล่าว
ด้านนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่การจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น และเงินเฟ้ออยู่ในทิศทางที่เหมาะสม
"ผมไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้" เขากล่าว
อย่างไรก็ดี นายล็อคฮาร์ทไม่ได้ระบุถึงกำหนดเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด
เขากล่าวเสริมว่า ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมาได้แสดงภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินความจริง ในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของสหรัฐยังคงบ่งชี้ถึงการขยายตัวในระดับปานกลางในปีนี้ และปีหน้า
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 26-27 ก.ค.ในคืนนี้ ซึ่งอาจส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้