ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวในช่วงแคบวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพิจารณารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่เฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ณ เวลา 20.50 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,562.64 จุด ลดลง 10.86 จุด หรือ 0.06%
ดาวโจนส์แกว่งตัวทั้งในแดนบวกและลบในวันนี้ และนับเป็นวันที่ 13 ติดต่อกันที่ดัชนีมีการปรับตัวในลักษณะดังกล่าว
ทั้งนี้ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค. เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากมุมมองที่ต่างกันเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนมองว่า เฟดควรจะรอให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่กรรมการอีกส่วนหนึ่งมองว่า ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐจะสามารถปรับตัวรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
ส่วนแนวโน้มด้านเงินเฟ้อนั้น เจ้าหน้าที่เฟดบางคนมองว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานได้ปรับตัวขึ้นในปีที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่บางส่วนได้ระบุถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ
นักวิเคราะห์ระบุว่าจากการที่เฟดยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้เดือนธ.ค.เป็นเดือนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
หุ้นกลุ่มสื่อสารดิ่งลงนำตลาด ขณะที่กลุ่มพลังงานดีดตัวสวนทางตลาด
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเตรียมการประชุมหารือคงกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาด
ณ เวลา 19.27 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.60% สู่ระดับ 47.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ รัสเซียกำลังหารือกับซาอุดิอาระเบีย และประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ เกี่ยวกับการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันในอนาคต หากมีความจำเป็น
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีกำหนดประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26-28 ก.ย. นอกรอบการประชุมพลังงานระหว่างประเทศ (IEF) ที่แอลจีเรีย
หุ้นบริษัทวอลมาร์ท อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ในวันนี้ หลังเปิดเผยรายได้และกำไรในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ วอลมาร์ทระบุว่า ทางบริษัทมีกำไร 1.07 ดอลลาร์/หุ้น โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.02 ดอลลาร์/หุ้น
วอลมาร์ทยังเปิดเผยว่า รายได้เพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 1.2085 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.2016 แสนล้านดอลลาร์