ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลงในวันนี้ และบ่งชี้ว่าตลาดวอลล์สตรีทจะอ่อนตัวลงในคืนนี้ โดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลงกว่า 2% ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ เฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ ได้จัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง นับตั้งแต่ปี 2525 โดยได้ทำการเชิญนักเศรษฐศาสตร์จากวอลล์สตรีท รวมทั้งบรรดานักวิชาการ ให้เข้าร่วมประชุมดังกล่าวพร้อมกับเจ้าหน้าที่เฟด โดยการประชุมจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน
ณ เวลา 19.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 44 จุด หรือ 0.24% สู่ระดับ 18,496 จุด
นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในปีที่แล้ว โดยอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ที่ผ่านมา เฟดมักจะแถลงนโยบายสำคัญในการประชุมดังกล่าว
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 2% ในวันนี้ ขณะที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเตรียมส่งออกน้ำมันมากขึ้น และจากการที่สหรัฐเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน หลังราคาดีดตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ณ เวลา 19.23 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 2.56% สู่ระดับ 47.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
อิรักเตรียมเพิ่มการส่งออกน้ำมัน 150,000 บาร์เรล/วันจากบ่อน้ำมันทางเหนือของประเทศ หลังจากประสบปัญหาขัดข้องด้านการผลิตตั้งแต่เดือนมี.ค.
ขณะเดียวกัน กลุ่มติดอาวุธไนจีเรียประกาศว่าพร้อมที่จะหยุดยิง และเปิดการเจรจากับรัฐบาล ซึ่งจะช่วยหนุนการส่งออกน้ำมันของไนจีเรีย
ทางด้านจีนเปิดเผยว่า การส่งออกน้ำมันเบนซินและดีเซลพุ่งขึ้น 145.2% และ 181.8% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
บริษัทเบเกอร์ ฮิวส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันของสหรัฐรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้น 10 แท่น สู่ระดับ 406 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว และปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ก็เป็นปัจจัยลบต่อตลาดในวันนี้ โดยดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของน้ำมัน โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น