ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 23.15 จุดหลังน้ำมันร่วง,ตลาดจับตา "เยลเลน" แถลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 23, 2016 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,529.42 จุด ลดลง 23.15 จุด หรือ -0.12% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,244.60 จุด เพิ่มขึ้น 6.22 จุด หรือ +0.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,182.64 จุด ลดลง 1.23 จุด หรือ -0.06%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ร่วงลงกว่า 3% หลังจากบริษัทเบเกอร์ ฮิวส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันของสหรัฐรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะกล่าวสุทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดวันศุกร์นี้ โดยการประชุมประจำปีของเฟดในครั้งนี้ มีหัวข้อว่า "การออกแบบกรอบนโยบายการเงินอย่างยืดหยุ่นสำหรับอนาคต" ทั้งนี้ เฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ ได้จัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง นับตั้งแต่ปี 2525 โดยได้ทำการเชิญนักเศรษฐศาสตร์จากวอลล์สตรีท รวมทั้งบรรดานักวิชาการ ให้เข้าร่วมประชุมดังกล่าวพร้อมกับเจ้าหน้าที่เฟด โดยการประชุมจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในปีที่แล้ว โดยนางเยลเลนจะกล่าวแสดงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

หุ้นไฟเซอร์ปรับตัวลง 0.40% ขณะที่หุ้นเมดิเวชั่นทะยานขึ้น 19.74% หลังจากบริษัทไฟเซอร์แถลงเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทจะเข้าซื้อกิจการของบริษัทเมดิเวชั่น ในข้อตกลงมูลค่าเกือบ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยให้ไฟเซอร์เป็นผู้นำด้านการรักษาโรคมะเร็ง และหนุนการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัท

ทั้งนี้ ไฟเซอร์เสนอซื้อหุ้นเมดิเวชั่นด้วยเงินสด ในราคาหุ้นละ 81.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าถึง 21.35% เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 67.16 ดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. และดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.จากเฟดสาขาริชมอนด์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ