ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งกว่า 100 จุดในวันนี้ ขานรับตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้
ณ เวลา 20.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,536.51 จุด เพิ่มขึ้น 117.21 จุด หรือ 0.64%
การพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ในวันนี้ นับเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ตามราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นกว่า 2%
นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขการส่งออกของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 10 เดือน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9%
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.8%
ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 126,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 25,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 275,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 255,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 271,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 292,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ได้เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค.
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 62.8%
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์เห็นพ้องกันว่า หากตัวเลขการจ้างงานที่จะมีการรายงานในคืนนี้ ออกมาสูงกว่า 200,000 ตำแหน่ง ก็จะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนอย่างมากสำหรับเฟดในการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานวันนี้ว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในเดือนก.ค. โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 10 เดือน
ทั้งนี้ สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าลดลง 11.6% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 3.95 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากเพิ่มขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้าลดลงสู่ 4.27 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.
หากปรับค่าตามเงินเฟ้อ สหรัฐจะขาดดุลการค้าลดลงสู่ 5.83 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. เทียบกับระดับ 6.45 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.
สหรัฐส่งออกสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 1.9% สู่ระดับ 1.863 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย 2015
นอกจากนี้ สหรัฐนำเข้าสินค้าและบริการลดลง 0.8% สู่ระดับ 2.258 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 41.02 ดอลลาร์ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ของราคาน้ำมัน